คุณรู้หรือไม่สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟฟ้าผันผวนในแต่ละเดือน แต่ละปี ทั้งที่บางทีเราก็เหมือนกับใช้ไฟฟ้าในพฤติกรรมซ้ำเดิมแต่ทำไมค่าไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้ง นั่นก็เพราะการผลิตไฟฟ้ามีปัจจัยที่หลากหลายทั้งปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยนอกประเทศ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำเข้ามาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า อาทิ ถ่านหิน , แก๊สธรรมชาติ , ค่าแรง และอื่น ๆ ซึ่งนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการที่ทำให้ค่าไฟฟ้ามีความผันผวนบ้างเพราะการผลิตไฟฟ้านั้นมีต้นทุนการผลิตที่มาจากหลายแหล่ง แต่ก็มีอีกปัจจัยสำคัญหนี่งที่ผู้ใช้งานไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้คือ ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ซึ่งก็หมายถึง ” สภาพอากาศ ” โดยเฉพาะอากาศร้อน ซึ่งประเทศไทย อยู่ในเขตอากาศร้อนและชื้น ซึ่งปัจจัยนี้มีผลเป็นอย่างมากที่ทำให้ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นทั้งที่เราก็ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเดิม แล้วอากาศร้อนเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าของเราที่ต้องขึ้นอย่างไร ?
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ประเทศไทย เป็นประเทศเขตร้อน ดังนั้นจึงมีอัตราการใช้งานเครื่องปรับอากาศและระบบระบายอากาศเป็นจำนวนมาก โดย 40-60% ของจำนวนเครื่องใช้งานไฟฟ้าทั้งหมดในอาคารสำนักงาน บ้านเรือน หรือแม้แต่ในโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนเกี่ยวข้องกับการปรับสภาพอากาศและทำความเย็นเป็นส่วนใหญ่ เช่น ระบบแอร์ , ชิลเลอร์ , พัดลม , คูลลิ่ง ทาวเวอร์ , โบลเวอร์ ฯลฯ
ซึ่งเครื่องใช้งานไฟฟ้าเหล่านี้ หลายตัวได้รับผลกระทบโดยตรงจากสภาพอากาศภายนอกที่เข้ามากระทบ เช่น Air Conditioning ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากอากาศร้อน นั่นคือถ้าอุณหภูมินอกอาคารสูงขึ้น (Ambient temperature) ก็จะทำให้ระบบแอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะผลต่างระหว่างอุณหภูมิภายนอกและภายในอาคารมีแนวโน้มต่างกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะเปิดอุณภูมิความเย็นในอาคารเท่าเดิม แต่อุณหภูมิภายนอกที่มากขึ้น ทำให้ระบบคอมเพรสเซอร์ต้องทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ระบบแอร์ทำงานหนักในสภาพอากาศร้อนและส่งผลให้ค่าการใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ยังไม่นับรวมถึงการขาดการซ่อมบำรุงและทำความสะอาด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลทำให้แอร์กินไฟฟ้ามากขึ้นหากเราละเลยสิ่งเหล่านี้
และเมื่อเป็นแบบนััน เมื่อคูณปริมาณเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการทำความเย็นทั้งหมดในภาพรวมของกิจการของเรา ซึ่งมีประมาณ 40 – 60 % เมื่อเทียบกับกิจกรรมการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จึงส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าในหน้าร้อนสูงขึ้นในหน้าร้อนในทุกปีนั่นเอง และแนวโน้มของโลกก็มีแนวโน้มว่าอากาศจะร้อนขึ้นและร้อนขึ้น ทำให้เครื่องปรับอากาศและทำความเย็นจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเมื่ออากาศร้อนขึ้น อัตราการใช้เครื่องปรับอากาศก็จะสูงขึ้น และมีจำนวนที่มากขึ้น ดังนั้นการใช้งานไฟฟ้าและต้นทุนที่ผู้ประกอบการของแบกรับจึงมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย
ดังนั้นเมื่อเราทราบแล้วว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศมีปัจจัยที่เราสามารถหลีกเลี่ยงค่าไฟฟ้าให้ลดน้อยลงได้ และปัจจัยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งาน , การ PM อุปกรณ์ , การทำความสะอาดแผงคอยด์เย็น และคอยด์ร้อน การเปลี่ยนแอร์เป็นระบบใหม่ หรือแม้แต่การติดตั้งเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีอยู่หลากหลาย ก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนทางพลังงานในเครื่องปรับอากาศลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ