สินค้าอื่นๆ

Eco Energy Device

อุปกรณ์ปรับปรุงกระแสไฟฟ้าด้วยตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด
  • ปรับปรุงคุณภาพกระแสไฟฟ้าด้วยตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด
  • การันตีการประหยัดไฟฟ้าในระบบ 8-15%*
  • ลดสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าและ Harmonic
  • ไม่มีอุปกรณ์ภายในที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ไม่ต้องการการซ่อมบำรุงหรือดูแลรักษา
  • ไม่เป็นภาระของผู้ประกอบการ
  • อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ปลอดภัยด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล
  • สินค้านำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้
Eco Energy Device เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยใช้หลักการของการลดการสูญเสียพลังงานในรูปแบบของพลังงานความร้อน โดยการปรับปรุงการไหลของกระแสไฟฟ้า ตามทฤษฎีการสูญเสียพลังงานความร้อนจากความต้านทานทางไฟฟ้า โดยอุปกรณ์จะทำการลดการสูญเสียพลังงาน หรือการทำให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง นั่นคือการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้เกิดการประหยัดไฟฟ้า “

      จากการค้นพบตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวดหรือเรียกว่า Superconductor ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ความต้านทานทางไฟฟ้าของวัสดุมีค่าเป็นศูนย์และเส้นแรงแม่เหล็กถูกผลักออกจากตัวนำยิ่งยวดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตัวนำยิ่งยวดถูกทำให้เย็นลงต่ำกว่าอุณหภูมิหนึ่ง เรียกว่าอุณหภูมิวิกฤต (Tc) โดยทฤษฎีดังกล่าวถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ไฮเกรย์ คาร์เมริ่ง ออนเนส (Mr.Heike Kamerlingh Onnes) นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยไลเดน ประเทศเนเธอแลนด์  โดยการค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นโดยการศึกษาความต้านทานทางไฟฟ้าของโลหะปรอทแข็งที่อุณหภูมิต่ำโดยใช้ฮีเลียมเหลวเป็นตัวทำความเย็น ซึ่งการค้นพบดังกล่าวทำให้ศาสตราจารย์ ออนเนส ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1913 นับเป็นการค้นพบเป็นครั้งแรกของโลก โดยหลักการและทฤษฎีการค้นพบดังกล่าวถูกนำมาพัฒนาและต่อยอดการพัฒนาอีกมากมายและเกิดการค้นคว้าวัสดุที่สามารถเกิดเป็นสภาวะตัวนำยิ่งยวดได้อีกหลายวัสดุ รวมทั้งสายส่งไฟฟ้าและตัวเก็บไฟฟ้าในเวลาต่อมา

ด้วยวิทยาการในพัฒนาสารตัวนำยิ่งยวดเพื่อนำกระแสไฟฟ้าแบบไร้แรงต้านทาน จึงทำให้เกิดอุปกรณ์ที่ช่วยในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า Eco Energy Device ที่พัฒนาวัสดุและอุปกรณ์ให้เกิดสภาวะตัวนำยิ่งยวดได้ แม้ในอุณหภูมิปกติโดยเกิดจากปฏิกิริยาของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กับสารประกอบในตัวอุปกรณ์เพื่อทำให้เกิดสภาวะตัวนำยิ่งยวด และไหลเข้าไปในวงจรไฟฟ้าเพื่อลดแรงต้านทานทางไฟฟ้า โดยการต่ออุปกรณ์ขนานเข้ากับระบบเพื่อลดความต้านทางทางไฟฟ้า และเมื่อระยะเวลาผ่านไประยะหนึ่งกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านก็จะเกิดการปรับปรุงในระบบ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้านำไปสู่การประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่สามารถพิสูจน์ได้

โดยสารประกอบภายในของ Eco Energy Device ประกอบด้วยสารประกอบออกไซด์ของเซรามิค และออกไซด์ของโลหะ หรือที่เรียกว่า Cuprates ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีและนำไปสู่สภาวะการนำไฟฟ้ายิ่งยวด โดยการปรากฎการณ์ของรังสีอินฟราเรด และชั้นในของวัสดุเป็นแผ่นเคลือบด้วยเซรามิค สำหรับทำหน้าที่ดูดซับการสะท้อนพลังงานที่เกิดขึ้นภายใน ดังนั้นเมื่อทำการติดตั้งกับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ จะทำให้เกิดการสลับกันของสนามแม่เหล็ก ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และทำให้ปริมาณพลังงานเพิ่มขึ้นระหว่างคู่อิเล็กตรอน (Electron) นำไปสู่การเคลื่อนที่ที่ใช้พลังงานน้อยลง เพราะมีพลังงานที่เกิดจาก สภาวะตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวดที่เรียกว่า คูเปอร์แพร์ (Cooper Pair) เกิดขึ้น จากนั้นอิเล็กตรอน (Electron) ที่ถูกจัดเรียงใหม่ให้เกิดระเบียบแบบ คูเปอร์แพร์ (Cooper Pair) หรืออะตอมของอิเล็กตรอนจับตัวกันเป็นคู่และหมุนสปินสวนทางกัน ทำให้เกิดสภาวะตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด

และหลังจากนั้นเมื่อทำการต่อขนานเข้ากับแหล่งจ่ายหรือระบบไฟฟ้า อิเล็กตรอนที่ถูกจัดเรียงแล้วดังกล่าวจะเดินทางเข้าไปยังระบบไฟฟ้าได้ไกลในระยะหนึ่ง ทำให้ระบบไฟฟ้ามีสภาพการนำไฟฟ้าที่ดีขึ้นกว่าสภาวะปกติ ทำการการสูญเสียพลังงานในระบบลดลง โดยเฉพาะกับภาระโหลดที่เป็นตัวเหนี่ยวนำ (Inductive Load)

Eco Energy Device ใช้กับภาระทางไฟฟ้าแบบไหนได้บ้าง ?

ภาระทางไฟฟ้าหรือโหลด (Load) คือสิ่งใดก็แล้วแต่ที่ต่อหลังจากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า นับเป็นภาระทางไฟฟ้าทั้งสิ้น โดยปกติแล้วจะแยกภาระทางไฟฟ้าหรือโหลด (Load) ออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ โหลดตัวเหนี่ยวนำ (Inductive Load) , โหลดความต้านทาน (Resistive Load) และโหลดตัวเก็บประจุ (Capacitive Load) โดยในแต่ละสถานประกอบการก็จะมีภาระทางไฟฟ้ามากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่ Eco Energy Device สามารถใช้งานได้กับทุกภาระทางไฟฟ้าในรูปแบบของโหลดแบบผสม (Complex Load) แปลว่าสามารถลดพลังงานไฟฟ้าได้กับทุกภาระทางไฟฟ้า

Eco Energy Device ประหยัดพลังงานได้กี่ %?

       Eco มีประสิทธิภาพสูงสุดในโหลดที่มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นประเภทเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Inductive Load) เช่น    มอเตอร์ , เครื่องปรับอากาศ , ปั๊มน้ำ ฯลฯ โดยอัตราการประหยัดพลังงานจะอยู่ที่ 8-15% โดยเฉลี่ย โดยจะสามารถวัดผลการประหยัดไฟฟ้าและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้กับโหลดที่ประกอบด้วยตัวเหนี่ยวนำเท่ากับ 60% หรือมากกว่า สำหรับการใช้งานในโหลดผสม (Complex Load) จะมีอัตราการประหยัดพลังงานอยู่ที่ประมาณ 5-12% โดยปัจจัยที่ควรคำนึงถึงคือสถานประกอบการนั้นควรมีปัจจัยของภาระงานเกินกว่า 70% ของปัจจัยงาน และโหลดควรประกอบด้วยตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้ามากกว่า 60%

Eco Energy Device ติดตั้งอย่างไร ?

การติดตั้งเพียงแค่การต่ออุปกรณ์ Eco Energy Device คร่อมกับแหล่งจ่ายไฟฟ้าหรือตู้ MDB แล้วทำการเปิดใช้งานไฟฟ้าปกติ ก็สามารถเริ่มกระบวนการปรับปรุงพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบจะทำการแพร่ซึมสสารและอิเล็กตรอนที่ได้รับการชาร์ทให้เกิดสภาวะตัวนำ เข้าสู่ระบบใช้เวลา 10-30 วัน

Eco Energy Device มีอายุการใช้งานกี่ปี

อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า Eco Energy Device มีอายุการใช้งาน 10 ปีเต็ม มาพร้อมการรับประกันสินค้า 5 ปี ทำให้การประหยัดต้นทุนไฟฟ้าและการทำกำไรจากการลงทุนสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง
หากคุณสนใจสินค้าและผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดค่าไฟฟ้า สามารถเข้าไป ดูข้อมูลและข่าวสารที่จำเป็นต่อการประหยัดพลังงาน ได้ที่หน้าสินค้าของเราหรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าและบริการ สามารถติดต่อสอบถามมาได้ทางแชทขวามือ หรือส่งข้อมูลมายัง painsthai@gmail.com เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา
สินค้าอื่นๆ

Eco Energy Device

อุปกรณ์ปรับปรุงกระแสไฟฟ้าด้วยตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด
  • ปรับปรุงคุณภาพกระแสไฟฟ้าด้วยตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด
  • การันตีการประหยัดไฟฟ้าในระบบ 8-15%*
  • ลดสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าและ Harmonic
  • ไม่มีอุปกรณ์ภายในที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ไม่ต้องการการซ่อมบำรุงหรือดูแลรักษา
  • ไม่เป็นภาระของผู้ประกอบการ
  • อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ปลอดภัยด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล
  • สินค้านำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้
Eco Energy Device เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยใช้หลักการของการลดการสูญเสียพลังงานในรูปแบบของพลังงานความร้อน โดยการปรับปรุงการไหลของกระแสไฟฟ้า ตามทฤษฎีการสูญเสียพลังงานความร้อนจากความต้านทานทางไฟฟ้า โดยอุปกรณ์จะทำการลดการสูญเสียพลังงาน หรือการทำให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง นั่นคือการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้เกิดการประหยัดไฟฟ้า “

      จากการค้นพบตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวดหรือเรียกว่า Superconductor ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ความต้านทานทางไฟฟ้าของวัสดุมีค่าเป็นศูนย์และเส้นแรงแม่เหล็กถูกผลักออกจากตัวนำยิ่งยวดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตัวนำยิ่งยวดถูกทำให้เย็นลงต่ำกว่าอุณหภูมิหนึ่ง เรียกว่าอุณหภูมิวิกฤต (Tc) โดยทฤษฎีดังกล่าวถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ไฮเกรย์ คาร์เมริ่ง ออนเนส (Mr.Heike Kamerlingh Onnes) นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยไลเดน ประเทศเนเธอแลนด์  โดยการค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นโดยการศึกษาความต้านทานทางไฟฟ้าของโลหะปรอทแข็งที่อุณหภูมิต่ำโดยใช้ฮีเลียมเหลวเป็นตัวทำความเย็น ซึ่งการค้นพบดังกล่าวทำให้ศาสตราจารย์ ออนเนส ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ.1913 นับเป็นการค้นพบเป็นครั้งแรกของโลก โดยหลักการและทฤษฎีการค้นพบดังกล่าวถูกนำมาพัฒนาและต่อยอดการพัฒนาอีกมากมายและเกิดการค้นคว้าวัสดุที่สามารถเกิดเป็นสภาวะตัวนำยิ่งยวดได้อีกหลายวัสดุ รวมทั้งสายส่งไฟฟ้าและตัวเก็บไฟฟ้าในเวลาต่อมา

ด้วยวิทยาการในพัฒนาสารตัวนำยิ่งยวดเพื่อนำกระแสไฟฟ้าแบบไร้แรงต้านทาน จึงทำให้เกิดอุปกรณ์ที่ช่วยในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า Eco Energy Device ที่พัฒนาวัสดุและอุปกรณ์ให้เกิดสภาวะตัวนำยิ่งยวดได้ แม้ในอุณหภูมิปกติโดยเกิดจากปฏิกิริยาของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กับสารประกอบในตัวอุปกรณ์เพื่อทำให้เกิดสภาวะตัวนำยิ่งยวด และไหลเข้าไปในวงจรไฟฟ้าเพื่อลดแรงต้านทานทางไฟฟ้า โดยการต่ออุปกรณ์ขนานเข้ากับระบบเพื่อลดความต้านทางทางไฟฟ้า และเมื่อระยะเวลาผ่านไประยะหนึ่งกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านก็จะเกิดการปรับปรุงในระบบ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้านำไปสู่การประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่สามารถพิสูจน์ได้

โดยสารประกอบภายในของ Eco Energy Device ประกอบด้วยสารประกอบออกไซด์ของเซรามิค และออกไซด์ของโลหะ หรือที่เรียกว่า Cuprates ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีและนำไปสู่สภาวะการนำไฟฟ้ายิ่งยวด โดยการปรากฎการณ์ของรังสีอินฟราเรด และชั้นในของวัสดุเป็นแผ่นเคลือบด้วยเซรามิค สำหรับทำหน้าที่ดูดซับการสะท้อนพลังงานที่เกิดขึ้นภายใน ดังนั้นเมื่อทำการติดตั้งกับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ จะทำให้เกิดการสลับกันของสนามแม่เหล็ก ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และทำให้ปริมาณพลังงานเพิ่มขึ้นระหว่างคู่อิเล็กตรอน (Electron) นำไปสู่การเคลื่อนที่ที่ใช้พลังงานน้อยลง เพราะมีพลังงานที่เกิดจาก สภาวะตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวดที่เรียกว่า คูเปอร์แพร์ (Cooper Pair) เกิดขึ้น จากนั้นอิเล็กตรอน (Electron) ที่ถูกจัดเรียงใหม่ให้เกิดระเบียบแบบ คูเปอร์แพร์ (Cooper Pair) หรืออะตอมของอิเล็กตรอนจับตัวกันเป็นคู่และหมุนสปินสวนทางกัน ทำให้เกิดสภาวะตัวนำไฟฟ้ายิ่งยวด

และหลังจากนั้นเมื่อทำการต่อขนานเข้ากับแหล่งจ่ายหรือระบบไฟฟ้า อิเล็กตรอนที่ถูกจัดเรียงแล้วดังกล่าวจะเดินทางเข้าไปยังระบบไฟฟ้าได้ไกลในระยะหนึ่ง ทำให้ระบบไฟฟ้ามีสภาพการนำไฟฟ้าที่ดีขึ้นกว่าสภาวะปกติ ทำการการสูญเสียพลังงานในระบบลดลง โดยเฉพาะกับภาระโหลดที่เป็นตัวเหนี่ยวนำ (Inductive Load)

Eco Energy Device ใช้กับภาระทางไฟฟ้าแบบไหนได้บ้าง ?

ภาระทางไฟฟ้าหรือโหลด (Load) คือสิ่งใดก็แล้วแต่ที่ต่อหลังจากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า นับเป็นภาระทางไฟฟ้าทั้งสิ้น โดยปกติแล้วจะแยกภาระทางไฟฟ้าหรือโหลด (Load) ออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ โหลดตัวเหนี่ยวนำ (Inductive Load) , โหลดความต้านทาน (Resistive Load) และโหลดตัวเก็บประจุ (Capacitive Load) โดยในแต่ละสถานประกอบการก็จะมีภาระทางไฟฟ้ามากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่ Eco Energy Device สามารถใช้งานได้กับทุกภาระทางไฟฟ้าในรูปแบบของโหลดแบบผสม (Complex Load) แปลว่าสามารถลดพลังงานไฟฟ้าได้กับทุกภาระทางไฟฟ้า

Eco Energy Device ประหยัดพลังงานได้กี่ %?

       Eco มีประสิทธิภาพสูงสุดในโหลดที่มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นประเภทเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Inductive Load) เช่น    มอเตอร์ , เครื่องปรับอากาศ , ปั๊มน้ำ ฯลฯ โดยอัตราการประหยัดพลังงานจะอยู่ที่ 8-15% โดยเฉลี่ย โดยจะสามารถวัดผลการประหยัดไฟฟ้าและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้กับโหลดที่ประกอบด้วยตัวเหนี่ยวนำเท่ากับ 60% หรือมากกว่า สำหรับการใช้งานในโหลดผสม (Complex Load) จะมีอัตราการประหยัดพลังงานอยู่ที่ประมาณ 5-12% โดยปัจจัยที่ควรคำนึงถึงคือสถานประกอบการนั้นควรมีปัจจัยของภาระงานเกินกว่า 70% ของปัจจัยงาน และโหลดควรประกอบด้วยตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้ามากกว่า 60%

Eco Energy Device ติดตั้งอย่างไร ?

การติดตั้งเพียงแค่การต่ออุปกรณ์ Eco Energy Device คร่อมกับแหล่งจ่ายไฟฟ้าหรือตู้ MDB แล้วทำการเปิดใช้งานไฟฟ้าปกติ ก็สามารถเริ่มกระบวนการปรับปรุงพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบจะทำการแพร่ซึมสสารและอิเล็กตรอนที่ได้รับการชาร์ทให้เกิดสภาวะตัวนำ เข้าสู่ระบบใช้เวลา 10-30 วัน

Eco Energy Device มีอายุการใช้งานกี่ปี

อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า Eco Energy Device มีอายุการใช้งาน 10 ปีเต็ม มาพร้อมการรับประกันสินค้า 5 ปี ทำให้การประหยัดต้นทุนไฟฟ้าและการทำกำไรจากการลงทุนสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง
หากคุณสนใจสินค้าและผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดค่าไฟฟ้า สามารถเข้าไป ดูข้อมูลและข่าวสารที่จำเป็นต่อการประหยัดพลังงาน ได้ที่หน้าสินค้าของเราหรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าและบริการ สามารถติดต่อสอบถามมาได้ทางแชทขวามือ หรือส่งข้อมูลมายัง painsthai@gmail.com เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา